Skip to main content

3 วิธีที่เทคโนโลยีและ MIS จะช่วยปรับปรุงการแปรรูปเหล็กกล้า

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา วิธีการแบบ Go-to สำหรับการจัดการการแปรรูปเหล็กกล้านั้นเกี่ยวข้องกับดรออิ้ง(drawings)และเอกสารอื่นๆ จำนวนมาก รวมถึงการสื่อสารที่วุ่นวายสับสน และการป้อนข้อมูลด้วยตนเองที่เสี่ยงต่อการเกิดข้อผิดพลาดโชคดีที่ในปัจจุบันผู้แปรรูปเหล็กโครงสร้างมีตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพมากกว่าอยู่ที่ปลายนิ้วของตน

ต้องขอบคุณเทคโนโลยีระบบสารสนเทศ(MIS)ที่นำการปรับปรุงทั้งมวลเข้ามา MIS มาพร้อมกับวิธีที่มีประสิทธิภาพในการจัดเก็บและแชร์ข้อมูลโครงการ การทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ และการลดสิ่งไม่คาดคิดที่ทำให้เกิดต้นทุนสูงอันเป็นผลมาจากโฟลว์ข้อมูลแบบป้อนด้วยตนเองที่ใช้เวลานานในแง่ดีที่สุดคือ MIS เรียนรู้และใช้งานได้ง่าย คุณจึงไม่ต้องเปลี่ยนวิธีการทำงาน คุณเพียงแต่ทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในทุกขั้นตอนของโครงการก็พอ

ด้วยระบบการจัดการการแปรรูปเหล็กกล้าที่เหมาะสม คุณจะสามารถควบคุมข้อมูลได้อย่างแท้จริง ทำให้กระบวนการดำเนินได้ลื่นไหลยิ่งขึ้นและโครงการสามารถทำกำไรได้มากขึ้น ประโยชน์ของ MIS มีอะไรบ้าง

1.โฟลว์ข้อมูลที่ลื่นไหลช่วยประหยัดเวลา

โฟลว์ข้อมูลการทำงานเป็นหัวใจสำคัญของการแปรรูป และอุตสาหกรรมมักต้องเผชิญกับปัญหาท้าทายการแบ่งแยกข้อมูลระหว่างผู้มีส่วนเกี่ยวข้องฝ่ายต่างๆผู้เชี่ยวชาญแต่ละรายทำงานในสาขาของตนเอง แต่เมื่อต้องมีการแชร์ข้อมูล ก็ต้องมีการสละเวลาและกำลังแรงอันมีค่าด้วยการตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกคนอยู่ในวงจรข่าวสาร

ด้วย MIS สมาชิกแต่ละรายในโครงการของคุณจะสามารถดูแง่มุมทั้งหมดที่มาพร้อมกัน ทำให้เกิดเป็นความเข้าใจกระบวนการโดยรวมที่เพิ่มมากขึ้น และสามารถระบุจุดอ่อนได้ตั้งแต่เนิ่นๆทางที่ดีที่สุดคือ คุณควรจะต้องใส่ข้อมูลเพียงครั้งเดียว และทุกฝ่ายจะสามารถใช้ข้อมูลนี้ได้ การใช้ซอฟต์แวร์สำหรับงานที่ใช้เพื่อบันทึกข้อมูลด้วยตนเองยังช่วยเปิดตัวแหล่งข้อมูลสำหรับการดำเนินงานโครงการของตัวเองอีกด้วย

2.การแชร์ข้อมูลแบบเรียลไทม์จะช่วยลดการเกิดข้อผิดพลาดในสายการผลิต

แต่เดิม เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในโครงการการแปรรูป(fabrication project)  จะต้องมีการอัปเดตแต่ละขั้นตอนแยกกัน MIS สามารถดำเนินงานเป็นบริการระบบคลาวด์ ซึ่งหมายความว่าแทนที่จะใช้เอกสารที่จำเป็นในรูปแบบสำเนากระดาษ จะสามารถบันทึกทุกสิ่งแบบดิจิตอลในฐานข้อมูลที่สมาชิกโครงการทุกคนสามารถเข้าใช้ได้

ดังนั้น การอัปเดตและการแก้ไขจะแสดงในทั้งโครงการในทันทีด้วยแพลตฟอร์มแบบเรียลไทม์ จะไม่มีความเสี่ยงจากข้อมูลที่ล้าสมัย ข้อมูลขาดหาย หรือการปิดกั้นในสายการบังคับบัญชา

เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะต้องทราบถึงการเปลี่ยนแปลงไม่เช่นนั้น ผลลัพธ์อาจไม่ใช่แค่การเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่ยังอาจทำให้โครงการล้มเหลวได้ด้วยข้อมูลแบบเรียลไทม์จะลดการหยุดชะงักในโฟลว์ข้อมูลของคุณ จึงช่วยให้แน่ใจว่าผลสุดท้ายที่ได้จะเป็นไปตามต้องการ

3.MIS เริ่มนำมาใช้และใช้งานได้ง่าย

การเปลี่ยนจากงานที่ทำด้วยตนเองเป็นงานอัตโนมัติและระบบการจัดการข้อมูลที่ปรับปรุงประสิทธิภาพอาจดูเหมือนเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลยMIS ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงผู้แปรรูป ความต้องการของผู้ใช้จึงมาเป็นอันดับหนึ่ง ซอฟต์แวร์ไม่ได้สร้างมาเพื่อระดับผู้บริหารหรือบุคลากรทางเทคนิคเท่านั้นแต่โซลูชันสมัยใหม่ช่วยให้กระบวนการต่างๆ ง่ายสำหรับทุกแผนก

การเรียนรู้กระบวนการใหม่ทั้งหมดไม่ควรเป็นข้อกำหนดเมื่อเริ่มนำซอฟต์แวร์ใหม่มาใช้แต่ซอฟต์แวร์ได้รับการสร้างมาเพื่อช่วยให้ผู้แปรรูปสามารถทำงานในแบบเดิม แต่มีประสิทธิภาพมากขึ้นจึงเริ่มนำมาใช้ได้ง่าย เนื่องจากสร้างมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการและจุดอ่อนของตัวผู้แปรรูปเองคุณจะยังคงเป็นผู้ควบคุม แต่เครื่องมือของคุณจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เชื่อถือได้มากขึ้น และใช้งานง่ายกว่าที่เคย

โซลูชันข้อมูลการจัดการที่ใช้ BIM คืออนาคตของการแปรรูปเหล็กกล้า

ไปรษณีย์เคยเป็นวิธีเดียวที่ใช้ในการส่งเอกสารข้อมูล และได้ผลก็เพราะเป็นเรื่องจำเป็น การติดต่อกันทางจดหมายวิวัฒนาการจากโทรสารมาสู่อีเมล และความมีประสิทธิภาพ ความรวดเร็ว และความสะดวกก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก

การเปลี่ยนแปลงใน MIS ก็คล้ายคลึงกัน และวิวัฒนาการของระบบ Building Information Modeling (BIM) ก็ยิ่งช่วยให้การเปลี่ยนแปลงทำได้เร็วขึ้น โซลูชันที่ใช้ระบบ BIM จะช่วยให้คุณสามารถสื่อสารโดยใช้ต้นแบบ 3D และรูปภาพอื่นๆ ได้อันที่จริงแล้ว ระบบใหม่ทำงานเหมือนบริการรับส่งข้อความที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในโครงการของคุณทุกคนจะอยู่บนเพจเดียวกันตลอดเวลา แม้ทีมจะทำงานแยกกันก็ตาม

กล่าวโดยสรุปคือ การรับโซลูชันใหม่ที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีนับเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมสำหรับธุรกิจของคุณไม่เพียงแต่มีศักยภาพสูงในการเพิ่มผลิตภาพของคุณ แต่ยังช่วยส่งเสริมการทำงานร่วมกันและเพิ่มรายรับอีกด้วยแล้วคุณจะรออะไรอีก